วิธีการตรวจเช็คบำรุงรักษาสลิงลิฟต์

05/11/2020 17:05:30

"สลิงลิฟต์" ถูกเข้าใจอย่างผิดๆ สำหรับการออกแบบของระบบลิฟต์และการบำรุงรักษาเมื่อเวลาผ่านไป โดยความต้องการในการแลกเปลี่ยนระบบของสลิง จะส่งผลให้ต้นทุนในการบำรุงรักษาสูงขึ้น หากการติดตั้งไม่เป็นไปตามมาตรฐาน และยิ่งทำให้เกิดความสับสนหากเกิดปัญหาก่อนที่จะถึงเวลาบำรุงรักษา

จากที่กล่าวมาข้างต้น อย่าคิดว่าสลิงเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด เพราะว่าซับซ้อนกว่าที่คิด ยกตัวอย่าง สลิง 8 x 36 นั้นจะมีเส้นลวดถึง 288 เส้นเคลื่อนที่พร้อมๆกัน (สลิง 8 เกลียว โดยที่ 1 เกลียว มีเส้นลวด 36 เส้น) และยังมีแกนกลางของสลิงด้วย โดยอุปกรณ์ทั้งระบบต้องทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับสลิงแต่ล่ะเส้นและส่วนประกอบอื่นๆของลิฟต์ แม้ว่าลูกปืนจะแข็งแรงเพียงใด แต่เมื่อรองรับน้ำหนักบรรทุกที่มากเกินไปก็ไม่เป็นผลดีต่อสลิงและพูเลย์ (Sheave) เพราะคุณลักษณะของสลิงมีความยืดหยุ่น จึงต้องปรับให้สลิงกับ Sheave เข้ากันพอดี เพื่อให้สลิงเคลื่อนไหวผ่านร่อง Sheave อย่างสะดวก และมีแรงตึงเชือกที่เหมาะสม ถึงแม้ว่าสลิงสมัยใหม่จะดีเยี่ยมแค่ไหน ก็ไม่สามารถรักษาความใหม่อยู่ได้โดยไม่เสื่อมสภาพ

 

ทำไมสลิงถึงไม่อาจใช้งานได้ถึงเวลาตามที่คาดไว้
       สมัยก่อนมอเตอร์จะใช้ Sheave ที่มีขนาดใหญ่มาก (น้อยมากที่จะใช้ Secondart Sheave) และไม่ใช้การแขวนสลิงแบบ 2:1 Roping หรือ Double Wrapping โดยที่มีรูปแบบร่อง Sheave แบบ Undercut U-Groove และมีความเร็วต่ำ จึงทำให้มีโอกาสเสื่อมสถาพของสลิงลดลง และในปัจจุบันพื้นที่เริ่มมีความสำคัญมากขึ้น จึงมีการคิดค้นลิฟต์แบบไม่มีห้องเครื่องขึ้นมา เพื่อลดพื้นที่ในการใช้งาน และค่าใช้จ่ายให้น้อยลงซึ่งถูกเรียกว่า "De-Massification" รวมถึงการลดขนาดของ Sheave และ Traction ให้เล็กลง จึงทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างสลิงกับ Sheave มากขึ้น โดยที่ Groove ก็จะทำงานมากขึ้น เพื่อเพิ่มแรงในตอนเร่งความเร็ว และตอนหน่วงเพื่อลดความเร็วโดยมีข้อดีคือ สามารถลดระยะเวลาในการรอคอยลดลงและเพิ่มคนที่ต้องการใช้งานลิฟต์มากขึ้น

       เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องการทราบว่า สลิงลิฟต์จะใช้งานได้นานเท่าไร ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถบอกได้เช่นเดียวกับยางรถยนต์ว่าจะใช้งานได้นานเท่าไรถึงจะต้องทำการเปลี่ยนยาง เพราะไม่ได้เป็นเรื่องของเวลาแต่เกี่ยวกับลักษณะการใช้งาน การออกแบบระบบสิ่งแวดล้อม และการดูแลรักษา เราจึงต้องเข้าใจถึงอายุการใช้งานจริงและอายุการใช้งานที่ทางผู้ผลิตตั้งไว้ หากต้องการเพิ่มอายุการใช้งานต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง

       ตัวอย่างหนึ่งที่มีผลต่ออายุการใช้งานของสลิงลิฟต์ คือ จำนวนการออกตัวเคลื่อนที่ของลิฟต์ที่มีจำนวนครั้งมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน หากพิจารณาใน 2-3 ปีที่ผ่านมา มีกฎห้ามสูบบุหรี่ภายในอาคาร ทำให้ผู้สูบบุหรี่ต้องออกไปสูบบุหรี่ภายนอกอาคาร จากปัจจัยนี้ทำให้ลิฟต์มีการใช้งานมากกเดิมในช่วงเวลาเดียวกันถึง 3-4 เท่า ที่กล่าวมาจึงสรุปได้ว่าเราไม่สามารถที่จะระบุอายุการใช้งานของสลิงที่แน่นอนได้เนื่องจากความถี่ในการใช้งานของแต่ละสถานที่แต่ละช่วงเวลาไม่เท่ากัน ดังนั้นแทนที่จะถามอายุการใช้งานของสลิงเป็นจำนวนปี เราควรรู้จำนวนครั้งในการใช้งานจะแน่นอนกว่า เพราะอาคารแต่ล่ะประเภทมีลักษณะในการใช้อาคารแตกต่างกันไป

 

 

การบำรุงรักษาเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มอายุการใช้งานของสลิง โดยเราต้องเริ่มตั้งแต่ภาพรวมของมาตรฐานในการบำรุงรักษาไปจนถึงการจดบันทึกลงใน Check List (Report) ซึ่งสิ่งที่เราต้องรู้ในเบื้องต้นมีดังนี้

  1. Lubrication : การเคลือบน้ำมันจำเป็นต้องทำทุกๆการใช้งานครบ 250,000 ครั้ง หรือเมื่อพบว่าสลิงหรือร่องสลิงแห้ง ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะหากละเลยอาจทำให้อายุการใช้งงานของสลิงลดลงมากถึง 50% และหากสภาพอากาศแห้ง ร้อน หรือมีฝุ่น ทีมดูแลรักษาต้องเพิ่มความถี่ในการหล่อลื่นและตรวจสอบสลิง การเคลือบน้ำมันบนสลิงลิฟต์ที่ถูกต้องเหมาะสมยังสามารถช่วยให้แกนในของสลิงลิฟต์ใช้งานได้นานขึ้นอีกด้วย
  2. Tensioning : คือ แรงตึงของสลิงลิฟต์ ซึ่งแต่ล่ะเส้นควรมีความแตกต่างกันไม่เกิน 10% โดยแรงตึงของสลิงลิฟต์นั้นควรได้รับการตรวจเช็คด้วยเครื่องมือวัดความต่างของน้ำหนัก (Rope-Tension Checking Device) ซึ่งต้องปรับแต่งตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้งลิฟต์ และต้องมีการตรวจเช็คอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับลักษณะของการใช้งานลิฟต์ การตั้งแรงตึงที่เหมาะสมปัจจัยหลักที่จะช่วยยืดอายุการสึกหรอและการเสื่อมสภาพของสลิงลิฟต์ จากงานวิจัยในเรื่องแรงตึงของสลิงระบุว่า แรงตึงที่ไม่เท่ากันจะส่งผลให้สลิงเสื่อมคุณภาพได้เร็วขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยผลกระทบของแรงตึงเมื่อต่างกัน 15% จะทำให้ Load Factor ของสลิงเส้นที่ตึงที่สุดหลุดค่าความพอดีไป ส่งผลกระทบให้สลิงเส้นนั้นเสื่อมสภาพเร็วขึ้น แต่หากน้อยเกินไปจะทำให้สลิงมีแรงเสียดทานกับ Sheave น้อยลง เป็นผลให้สลิงเสียดสีกับ Sheave มากขึ้น ทำให้เกิดการสึกหรอทั้งในส่วนของสลิงและร่องสลิงบน Sheave ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และทำให้อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเสียหายด้วย
  3. Sheave : การตรวจเช็คลักษณะร่องสลิงประจำปีจะช่วยให้ทราบว่าสลิงสามารถเกาะติดกับ Sheave ได้อย่างเหมาะสมหรือไม่ เพราะว่าแรงเสียดทานที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลถึงอายุการใช้งานของสลิงลิฟต์และ Sheave ได้ และหาก Sheave เสื่อมสภาพแล้ว จะทำให้สลิงลิฟต์เสื่อมสภาพตามไปด้วย และก็จะทำให้ Sheave สึกหรอเร็วขึ้นไปอีก การตรวจเช็คง่ายๆ สามารถทำได้ด้วยการสังเกตว่าความสูงของสลิงพาดอยู่บน Sheave อยู่ในระดับเดียวกันหรือไม่
  4. Bearing : ลูกปืนนั้นก็มีเวลาเสื่อมสภาพ และเป็นสาเหตุที่ทำให้ Sheave เคลื่อนตัวไปด้านใดด้านหนึ่ง ส่งผลให้สลิงลิฟต์และตัว Sheave เกิดการบิดตัวเป็นมุมกัน ซึ่งแม้จะมีการปรับแต่งอย่างดีแล้วในตอนติดตั้ง แต่ก็มีความจำเป็นต้องตรวจเช็ค จากผลวิจัยระบุว่าหากมุมที่สลิงทำกับ Sheave ผิดเพี้ยนเพียงแค่ 4 องศา ก็จะทำให้อายุการใช้งานของสลิงลิฟต์ลดลงไปมากถึง 30 %

ข้อตระหนักในการเปลี่ยนสลิงลิฟต์
1. ต้องใช้สลิงลิฟต์มาตรฐานเดียวกันกับที่ได้ออกแบบไว้ โดยผู้ออกแบบระบบลิฟต์รายนั้นๆ จะเป็นผู้กำหนด
2. ห้ามใช้สลิงลิฟต์จากแหล่งผลิต 2 แหล่งในมู่เล่ (ร่องรอก) Sheave เดียวกัน
3. ห้ามใช้สลิงลิฟต์จากแหล่งผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน
4. ควรตรวจสอบปรับตั้งความตึงของลิฟต์ทุกเส้นให้เท่ากัน
5. ควรตรวจสอบว่าสลิงลิฟต์เกิดการปีนเกลียวหรือไม่ (ตรวจสอบสภาพสลิง)
6. การเปลี่ยนสลิงสำหรับลิฟต์ในกรณีเสื่อมสภาพจากการใช้งานตามระยะเวลา หรือเสื่อมสภาพจากสาเหตุสลิงแตก สลิงเกิดสนิม หรือสลิงมีขนาดแต่ละเส้นเล็กลง ควรเปลี่ยนพร้อมกันทั้งหมดทุกเส้น
7. การตรวจสอบสลิงสำหรับลิฟต์ ต้องดำเนินการโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญโดยตรง หรือเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรองรับจากสมาคมลิฟต์แห่งประเทศไทยเท่านั้น

 

ทางเรา เอชเอสที สตีล มีจัดจำหน่ายลวดสลิงสำหรับใช้กับลิฟต์อยู่หลากประเภทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นลวดสลิง 6 x Fi(29) + FC, 6 x WS(36) + IWRC ฯลฯ โดยทางเรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำและปรึกษา หากสนใจคลิ๊กเลย!! >> ลวดสลิงรอก ลิฟต์ เครน

 

Reference :

The Building Inspectors Association, 2020. The Fundamental of Elevator Maintenance [online] Available at: < http://www.bsa.or.th > [Accessed 5 Nov 2020]